สำนักงานศาลยุติธรรม รับสมัคร นักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ (บัดนี้ - 7 กันยายน 2557)

หน่วยงาน / องค์กร สำนักงานศาลยุติธรรม
รายละเอียด ประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม
เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ
ในตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ

ด้วยคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เห็นชอบให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๔ แห่งระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๔ และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เรื่อง การสรรหาโดยการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

๑. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ และจำนวนตำแหน่งว่างครั้งแรก
- ตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ อัตราเงินเดือน 1๕,๐๐๐ – 1๖,๕๐๐ บาท (ปริญญาตรี)
- จำนวนตำแหน่งว่างครั้งแรก ๖ อัตรา

๒. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ลักษณะงานที่ปฏิบัติตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ
หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการ มีลักษณะงานเกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์ ตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล วิจัย พัฒนามาตรฐานงานเกี่ยวกับการบริหารหรือการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การตัดสินใจอยู่ภายใต้การกำกับ แนะนำ และตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
1.๑ ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้ประกอบการวางระบบ การจัดทำมาตรฐานและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงาน ศาลยุติธรรม
๑.2 ศึกษา รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์งาน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนอัตรากำลัง การกำหนดตำแหน่งและค่าตอบแทนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจของสำนักงาน ศาลยุติธรรมและหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม
๑.3 ศึกษา วิเคราะห์ และดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและเลือกสรร เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่เหมาะสมกับการปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆ ในสำนักงานศาลยุติธรรมและหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม
๑.๔ ศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดความต้องการและความจำเป็นในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การวางแผนทางก้าวหน้าในสายอาชีพ การจัดหลักสูตร และการถ่ายทอดความรู้ การจัดสรรทุนการศึกษา การดูแลนักเรียนทุนในต่างประเทศ รวมทั้งการวางแผนและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคล แผนการจัดสรรทุนการศึกษาและการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้ข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม ข้าราชการศาลยุติธรรมและบุคลากรประเภทอื่นมีความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่เหมาะสมกับการปฏิบัติราชการตามภารกิจ ในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
๑.๕ ศึกษา รวบรวม ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ เพื่อประกอบการดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อาทิ การประเมินบุคคลเพื่อเลื่อนระดับ การบริหารผลการปฏิบัติงานและการบริหารค่าตอบแทน การโอนและการย้าย การสับเปลี่ยนหมุนเวียน การเสริมสร้างแรงจูงใจ การจัดสวัสดิการ เป็นต้น
๑.๖ ศึกษา วิเคราะห์ และดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศทรัพยากรบุคคล รวมทั้งการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ ที่ทันสมัยและเหมาะสมมาประยุกต์ใช้ ในการวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อการนำเสนอหลักเกณฑ์ แนวทาง มาตรการ แผนงาน โครงการ วิธีการ บริหารจัดการ การพัฒนางานในความรับผิดชอบที่มีประสิทธิภาพ
๑.๗ ช่วยดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการดำเนินการ ด้านวินัยของข้าราชการตุลาการ เพื่อความโปร่งใส ถูกต้อง และยุติธรรม สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล
๑.๘ จัดเตรียมเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นการพิจารณาด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในการประชุมคณะกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้การประชุมพิจารณาเรื่องต่างๆ บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนด
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานในความรับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด และสอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายการบริหารราชการของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม
3. ด้านการประสานงาน
๓.๑ ประสานงานกับหน่วยงานภายใน หน่วยงานภายนอก องค์กร หรือบุคคล ที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานด้านการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบ
๓.๒ ประสานการทำงานกับทีมงาน โครงการ หน่วยงานภายใน หน่วยงานภายนอก ในกระบวนการทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การดำเนินงานในด้านต่างๆ ของหน่วยงานบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
4. ด้านการบริการ
๔.๑ ให้คำแนะนำ ชี้แจง ตอบข้อคำถามแก่หน่วยงานราชการ เอกชน ข้าราชการ พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ในความรับผิดชอบในเบื้องต้น เพื่อให้ผู้สอบถามได้รับทราบข้อมูลและความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง
๔.๒ ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อสนับสนุนการวางแผนและตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม
๔.๓ ร่วมจัดสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน
ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ (ภาค ข)
ทดสอบความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง โดยวิธีการสอบข้อเขียนแบบปรนัย (คะแนนเต็ม ๒๐๐ คะแนน) ดังต่อไปนี้
ก. ความรู้เกี่ยวกับกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติราชการ
(๑) พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(๒) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑
ข. ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน
(๑) ความรู้หลักการบริหารงานบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรม
(๒) ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและแผนอัตรากำลัง
(๓) ความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลบุคคล
(๔) ความรู้เกี่ยวกับการวิจัยและประเมินผล
(๕) ความรู้เกี่ยวกับการจัดฝึกอบรมและประเมินความจำเป็นในการฝึกอบรม
(๖) ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศหรือมติที่ใช้ในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคล
ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน)
ประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จรรยาบรรณของข้าราชการ คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณ ไหวพริบ และบุคลิกภาพอื่น เป็นต้น และรวมถึงสมรรถนะหลัก สมรรถนะที่จำเป็นของตำแหน่ง

๓. คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
๓.๑ คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติทั่วไป
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(๓) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข. ลักษณะต้องห้าม
(๑) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(๒) เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือ จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
(๓) เป็นผู้อยู่ในระหว่าง…
(๓) เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
(๔) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(๕) เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหาร พรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(๖) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๗) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
(๘) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(๙) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(๑๐) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
(๑๑) เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการศาลยุติธรรมซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตาม ข. (๔) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) หรือ (๑๑) ก.ศ. อาจพิจารณายกเว้นให้เข้ารับราชการได้ แต่ถ้าเป็นกรณี มีลักษณะต้องห้ามตาม (๘) หรือ (๙) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสองปีแล้ว และ ในกรณีมีลักษณะต้องห้ามตาม (๑๐) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสามปีแล้ว และต้องมิใช่เป็นกรณีออกจากงานหรือออกจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่
สำหรับพระภิกษุ หรือสามเณรทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้ เข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว ๘๙/๒๕๐๑ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๐๑ และตามความในข้อ ๕ ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๓๘
๓.๒ คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
(๑) ได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ และ
(๒) เป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ของ ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป และเป็นผู้ขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ระดับปริญญาตรีขึ้นไป

๔. การรับสมัครสอบ
๔.๑ ผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการสอบแข่งขัน สามารถสมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเข้าไปที่ www.ojoc.coj.go.th/exam แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด ดังนี้
(๑) กรอกข้อความให้ถูกต้อง…
(๑) กรอกข้อความให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด ระบบ จะกำหนดแบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติ
(๒) พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A๔ จำนวน ๑ แผ่น หรือหากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึกข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงใน Diskette
กรณีไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินหรือบันทึกข้อมูลได้ ผู้สมัครสามารถเข้าไปพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน หรือบันทึกข้อมูลลงใน Diskette ใหม่ได้อีก แต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในการกรอกใบสมัครในครั้งที่สมบูรณ์แล้วได้
(๓) นำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินเฉพาะที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๗ ภายในเวลา ทำการของธนาคาร การรับสมัครสอบแข่งขันจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้มีการชำระค่าธรรมเนียม ในการสมัครสอบแข่งขันเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
(๔) หากมีเหตุขัดข้องไม่สามารถสมัครทางอินเตอร์เน็ตทั่วไปได้ ผู้สมัครสามารถเดินทางมาสมัครได้ที่สำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ชั้น ๓ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เพื่อสมัครผ่านอินเตอร์เน็ตของสำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ตามวันที่กำหนด ในวันและเวลาราชการ
๔.๒ ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน ๓๓๐ บาท ซึ่งประกอบด้วย
(๑) ค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน ๓๐๐ บาท
(๒) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน ๓๐ บาท
ค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
๔.๓ ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมสอบแล้ว จะได้รับหมายเลขผู้ชำระค่าธรรมเนียมสอบ ส่วนเลขประจำตัวสอบ สำนักงานศาลยุติธรรมจะกำหนดให้ภายหลัง
๔.๔ ให้ผู้สมัครพิมพ์ใบสมัครเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบ โดยให้ผู้สมัครเข้าไปที่ www.ojoc.coj.go.th/exam เพื่อพิมพ์ใบสมัคร และใช้ปุ่มค้นหารายชื่อผู้เข้ารับการสอบพร้อมกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน แล้วพิมพ์ใบสมัครที่ระบุเลขประจำตัวสอบ ซึ่งจะมีเฉพาะผู้ที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบภายในเวลาที่กำหนดเท่านั้น

๕. เงื่อนไขการสมัครสอบ
๕.๑ ผู้สมัครสอบสมัครได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
๕.๒ ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของผู้มีสิทธิสมัครสอบในข้อ ๓.๒ โดยต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครสอบ คือวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๗ ทั้งนี้ การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขั้นปริญญาบัตรของสถานศึกษาใด จะถือตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขั้นปริญญาบัตรของสถานศึกษานั้นเป็นเกณฑ์ และหากปรากฏภายหลังว่าผู้สมัครสอบรายใดมีวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน จะถือว่าผู้สมัครสอบแข่งขันรายนั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและไม่มีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการในตำแหน่งที่สมัครสอบ
๕.๓ การสมัครสอบตามขั้นตอนข้างต้น ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ดังนั้น หากผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗
๕.๔ ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง พร้อมทั้งยื่นหลักฐานในการสมัครสอบแข่งขัน ให้ถูกต้องครบถ้วนตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ สำนักงานศาลยุติธรรมจะถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้มาตั้งแต่ต้น และสำนักงานศาลยุติธรรมจะไม่ประกาศขึ้นบัญชีผู้ที่ขาดคุณสมบัติดังกล่าว และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ

๖. การประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ
สำนักงานศาลยุติธรรมจะประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ณ สำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ชั้น 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งทางเว็บไซต์ www.ojoc.coj.go.th และ www.ojoc.coj.go.th/exam

๗. หลักสูตรและวิธีการสอบ
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน มี ๒ ภาค ดังนี้
7.๑ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) (คะแนนเต็ม 2๐๐ คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง โดยวิธีการสอบข้อเขียนตามที่ได้กำหนดไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้
7.๒ ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน)
ทดสอบความเหมาะสมกับตำแหน่ง ตามที่ได้กำหนดไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้
ทั้งนี้ กำหนดให้ทดสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) ก่อนและต้องสอบได้คะแนนตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐ จึงจะเป็นผู้มีสิทธิเข้าสอบ ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาคความเหมาะสม กับตำแหน่ง (ภาค ค.) ในภายหลัง ณ สำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ชั้น 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งทางเว็บไซต์ www.ojoc.coj.go.th และ www.ojoc.coj.go.th/exam

๘. เกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งโดยจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐ และต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งโดยจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐

๙. การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
9.1 การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีเฉพาะผู้ที่สอบผ่านการสอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งและความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้ยื่นหนังสือรับรองผล การสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรีขึ้นไป โดยจะกำหนดให้ส่งในภายหลัง
9.2 การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะเรียงลำดับที่จากผู้ได้คะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ ในกรณีที่มีผู้สอบได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) เท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้ายังคงได้คะแนนเท่ากันอีก ให้บุคคลที่ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับ ที่สูงกว่า ถ้าเวลาในการชำระเงินยังคงเท่ากันอีกให้บุคคลที่สมัครก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า
9.3 การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลาไม่เกิน ๒ ปี นับตั้งแต่วัน ขึ้นบัญชี แต่ถ้ามีการสอบแข่งขันอย่างเดียวกันนี้อีกและได้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่แล้ว บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครั้งนี้เป็นอันยกเลิก

๑๐. การบรรจุและแต่งตั้ง
๑0.๑ ผู้สอบแข่งขันได้จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ โดยได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิที่กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้นตามที่ระบุไว้ในข้อ ๑
๑0.๒ สำนักงานศาลยุติธรรมไม่ประสงค์จะรับโอนผู้ที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานของรัฐทุกประเภทที่มีความประสงค์จะโอนโดยผลการสอบแข่งขัน
รายละเอียด(เพิ่มเติม) / เอกสาร
เว็บไซต์ / ลิงค์อื่นๆ http://www.ojoc.coj.go.th/exam/
ฝากประวัติ ฝากประวัติเพื่อสมัคงานกับเว็บไซต์

บริษัท ไทยเว็บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2/152 ซอยเพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105553027232
Tel : 02-810-8300 (จ.-ศ.08.30 - 17.30 น.) , 085-8213121 (24 ชม.) Fax : 02-810-8301
Email : [email protected] (ฝ่ายขาย) [email protected] (ฝ่ายบริการลูกค้า)
เพิ่มเพื่อน
0.046800136566162