4. สิ่งกระตุ้นและแรงดลใจ (Motivation and Aspirations)
ผู้สัมภาษณ์อาจต้องการตรวจสอบสิ่งกระตุ้นใจ และความกระตือรือร้นของผู้สมัครว่าสนใจงานประเภทใดเป็นพิเศษ ซึ่งก็อาจจะถามคำถาม ประเภท นี้
1) Why have you decided to apply for this job?
2) Where do you see yourself in five years time?
3) What would you do if you inherited a large sum of money?
คำถามในลักษณะนี้ ผู้สัมภาษณ์สามารถตรวจอสอบได้ว่าผู้สมัครมีความทะเยอทะยานสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และความทะเยอทะยานของผู้สมัครนั้นมี ทางเป็นไปได้หรือไม่หรือเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น
5. ความสนใจยามว่าง / งานอดิเรก (Leisure interests)
คำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามแบบกว้าง ๆ เช่น
1) How do you spend your spare time?
2) Do you have any hobbies?
คำถามประเภทนี้ จะช่วยให้ผู้สัมภาษณ์ตรวจสอบได้ว่าผู้สมัครมีความสามารถในการแสดงออกอย่างไร มีความชัดเจนเพียงพอหรือไม่ ทั้งยังเป็น การตรวจสอบดูว่า งานอดิเรกของผู้สมัครมีผลดีต่องานที่เขาสมัครนั้นอย่างไร เช่น ถ้าชอบท่องเที่ยวก็เหมาะกับงานประเภททัวร์ หรือเป็นมัคคุเทศก์ เป็นต้น
4. สิ่งกระตุ้นและแรงดลใจ (Motivation and Aspirations)
ผู้สมัครควรรู้ตัวเองว่า เราต้องการทำอะไรในขณะนี้ มีแผนการอะไรบ้าง และในอนาคตมีแผนการอะไร ไม่ควรตอบว่า ยังไม่มีแผนการที่แน่นอน เพราะจะทำให้ดูเหมือนว่ายังเป็นคนหลักลอยและไม่มีการวางแผนที่แน่นอน
ควรแสดงความกระตือรือร้นและความทะเยอทะยานแต่พอดี กล่าวคือ ไม่มากเกินไป และน้อยเกินไปจนดูแทบไม่มีความกระตือรือร้นอยู่เลย อย่างไร ก็ตาม ผู้สมัครไม่ควรแสดงออกถึงความเป็นผู้มีความทะเยอทะยานจนเกินไป เพราะจะทำให้พลาดโอกาสได้ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าผู้สัมภาษณ์อาจมองว่า ผู้สมัครมีความทะเยอทะยานมาก จึงอาจไม่ค่อยจะพอใจกับอะไรได้ง่าย ๆ และอาจจะอยู่ทำงานได้ไม่นานก็ออกไปหางานใหม่ทำ ซึ่งจะทำให้บริษัทเสียเงิน และเสียเวลาในกาคัดเลือกผู้สมัครประเภทนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์
คำถาม "Are you willing to move to another part of the country if the company wants you to?"
ก็ไม่ควรด่วนตัดสินใจปฏิเสธ ควรคิดดูให้รอบคอบเสียก่อนและอย่าลืมว่าการได้ออกไปอยู่ต่างจังหวัดจะทำให้เราเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ได้รับ ประสบการณ์เพิ่มขึ้น และแสดงให้เห็นว่าเรามีความต้องการทำงานจริง ๆ เพราะฉะนั้นผู้สมัครก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมว่า เราสามารถปฏิบัติ ตามนั้นได้หรือไม่
5. ความสนใจยามว่าง / งานอดิเรก (Leisure Interests)
ในการตอบคำถามเกี่ยวกับความสนใจยามว่าง ระวังอย่าพูดเท็จ เช่น ถ้าถูกถามว่า
"I see you like reading. What was the last book you read?"
ถ้าหากการอ่านหนังสือมิใช่ความสนใจของตนเองแล้ว ก็อย่าตอบเพียงเพื่อเอาใจผู้สัมภาษณ์เป็นอันขาด ดังนั้นถ้าจะบอกว่างานอดิเรกของเราคือ อะไรแล้วก็ต้องมีความมั่นใจว่า เราทำในสิ่งนั้นบ่อยๆ จนเป็นนิสัย และสามารถพูดคุยให้รายละเอียดเกี่ยวกับงานอดิเรกประเภทนั้นได้เป็นอย่างดี เช่น ถ้าตอบว่า
ชอบเล่นเทนนิส แต่ภายใน 1 ปี อาจไปเล่นเพียงครั้งเดียวหรือไม่ก็นานปีจะเล่นสักครั้งหนึ่ง อย่างนี้ไม่ควรจัดว่าเป็นงานอดิเรก เพราะระยะเวลา นานเกินไปไม่ได้ทำอย่างสม่ำเสมอ
อย่าลืมว่า ถ้าเราไม่สามารถพูดคุยหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับงานอดิเรกประเภทที่เอ่ยถึงได้แล้ว จะทำให้เราเสียเครดิต ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้สัมภาษณ์ หมดความเชื่อถือในตัวเราเกือบทุกๆ เรื่องที่เราตอบไปแล้วก็ได้