วิธีการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน
เพื่อนๆเคยเป็นกันบ้างไหมคะ เวลาที่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วยังอ้อยอิ่งไม่อยากลุก ลืมตามองเพดานแล้วนึกว่า "ต้องไปทำงานอีกแล้วหรือนี่เรา" หรือพอค่ำวันอาทิตย์นึกแต่ว่า "พรุ่งนี้วันจันทร์อีกแล้ว ทำไมวันหยุดถึงสั้นนัก" อาการแบบนี้เกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป จะเรียกว่าเป็นโรคเบื่องานหรือขาดแรงจูงใจในการทำงานก็ว่าได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้เสมอกับคนทำงานไม่ว่าเป็นนายหรือลูกน้อง สำหรับคนที่เป็นนายหรือผู้บังคับบัญชาควรจะรู้ว่าอะไรคือสาเหตุทำให้ลูกน้องห่อเหี่ยวไม่อยากทำงาน และพยายามหาทางป้องกัน เพราะคนที่ขาดแรงจูงใจย่อมไม่อาจสร้างผลงานที่ดีออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ จะให้บริการกับลูกค้าก็ไม่อาจทำให้ลูกค้ามีความสุขหรือประทับใจได้ การขาดแรงจูงใจของพนักงานจึงเหมือนกับโรคร้ายชนิดหนึ่งที่เกาะกินและทำลายความสำเร็จของหน่วยงาน เราจึงควรจะหาสาเหตุและวิธีที่จะช่วยกันสร้างแรงจูงใจ และเพิ่มไฟทำงาน เพื่อสร้างความสุขความสำเร็จให้กับคนทำงานในองค์การ

ปัจจัยอย่างแรกที่มีผลต่อแรงจูงใจของพนักงานคือ ตัวงานเอง งานที่จะสร้างแรงจูงใจได้คืองานที่มีคุณค่า มีความหมาย มีผลตอบแทนที่เหมาะสม และที่สำคัญมีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน นั่นคือทำแล้วรู้ว่าจะได้อะไร จะวัดความสำเร็จกันที่ตรงไหน ตราบใดที่มีเป้าหมายชัดเจนก็ทำให้คนทำงานรู้ว่าจะต้องทุ่มเทมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ไม่อย่างนั้นก็จะเหมือนกับคนที่อยู่ในถ้ำในความมืด มะงุมมะงาหราหาทางออกไม่เจอ หมดหวังหมดกำลังใจ หรืออย่างเวลานักวิ่งซ้อมวิ่งถ้าโค้ชบอกว่า "วันนี้วิ่ง 100 เมตรแล้วกัน แล้วจับเวลาว่าทำเวลาได้ดีกว่าเมื่อวานหรือเปล่า" อย่างนี้นักวิ่งก็มีเป้าหมายว่าจะต้องทำเท่าไร ทำแล้ววัดผลได้ว่าทำได้ไม่ได้ ย่อมเกิดแรงจูงใจที่จะทำ แต่ถ้าโค้ชบอกว่า "วิ่งวิ่งไปเถอะ เหนื่อยเมื่อไรค่อยหยุดวิ่ง" อย่างนี้นักวิ่งก็หมดแรงไม่รู้จะวิ่งไปทำไมให้ป่วยการ คนทำงานก็เช่นเดียวกันอยากเห็นผลงานของตัวเองว่าดีไม่ดีขนาดไหน มีเป้าหมายจึงเท่ากับมีแรงจูงใจให้อยากทำงาน นอกจากเป้าหมายแล้วต้องไม่ลืมว่าคนเรายังต้องการงานที่ทำให้เขามีโอกาสก้าวหน้า งานที่ท้าทายความสามารถด้วย งานบางอย่างทำไปแล้วมองไม่เห็นอนาคต ซ้ำซากน่าเบื่อ จะคาดหวังให้ใครมาทนทำอยู่นาน ๆ เห็นจะไม่ได้ ไม่ต้องดูอื่นไกล พนักงานที่นั่งเก็บเงินในตู้เล็ก ๆ บนทางด่วน ทำอย่างนั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ลองไปถามดูเถิดจะมีสักกี่คนบอกว่าชอบงาน มีความสุขกับงาน งานอย่างนี้ที่สุดแล้วก็ต้องมาคิดว่าจะหาเทคโนโลยี่มาทำแทนคนได้ไหม หรืองานบางอย่างจะเปลี่ยนวิธีทำเสียดีไหม คนที่เป็นหัวหน้าต้องพยายามให้งานที่มีความหมายกับลูกน้อง ชี้ให้ลูกน้องเห็นความสำคัญของงานที่มอบหมาย ปรับปรุงงานที่น่าเบื่อให้น่าทำ ตลอดจนหมุนเวียนให้ลูกน้องมีโอกาสได้ทำงานใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำซากบ้าง เขาจะได้มีกำลังใจที่สำคัญต้องไม่ลืมด้วยว่าผลตอบแทนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้คนมีแรงจะทำงาน จะหวังให้คนขยันทำงานในขณะที่ยังท้องหิวเป็นเรื่องยาก และหากท้องหิวหนักเข้าความสุจริตก็อาจจะหายไปด้วย

ตัวนายหรือหัวหน้า เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้งานน่าทำหรือน่าเบื่อหน่าย ถามลูกน้องบางคนว่าทำไมไม่อยากไปทำงาน ได้คำตอบว่า "เบื่อนาย" นายลำเอียง นายขี้บ่น นายอคติ นายประสาท นายซื่อบื้อ สุดที่จะบรรยายไปได้ต่าง ๆ นา ๆ นายบางคนนั้นสักแต่ว่าเป็นนายไม่เคยเอาใจลูกน้องมาใส่ใจตัวเอง อย่างนี้จะได้ความรักจากลูกน้องเห็นจะยากเต็มที ลูกน้องอยากจะได้นายที่เก่งทั้งงานและเก่งทั้งคน ที่ต้องเก่งงานเพราะต้องเป็นแบบอย่างให้ลูกน้องมั่นใจว่าจะเป็นผู้นำเขาได้ เขาฝากชีวิตไว้ได้ และทำให้เขาเรียนรู้จากนายได้ ที่ต้องเก่งคนเพื่อที่จะแบ่งปันน้ำใจ ให้ความเอื้ออาทร เป็นที่พึ่งทางใจให้กับเขาได้ นายที่เอาแต่เผด็จการ เอะอะก็โวยวายด่าทอเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งจะพาลูกน้องเซ็งไปด้วย นายที่เข้าอกเข้าใจลูกน้อง มีน้ำใจไมตรีแต่ทำงานไม่เอาไหน ไม่เคยพิสูจน์ตัวเองว่าประสบความสำเร็จในงานได้ ก็ไม่อาจเป็นที่พึ่งพิงแก้ปัญหาให้ลูกน้องได้ อย่างนี้ก็สร้างความเซ็งและทำให้กำลังใจของลูกน้องหายหกตกหล่นไปด้วย เป็นนายแบบที่จะทำให้ลูกน้องอยากทำงาน และทำงานอย่างทุมเทให้นั้นเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย

สาเหตุที่เบื่องานของคนบางคนเกิดเพราะ เพื่อนร่วมงาน งานดี นายดี เพื่อนร่วมงานไม่ดี ก็บั่นทอนกำลังใจที่จะทำงานไม่น้อย ปัญหากับเพื่อนร่วมงานนำมาซึ่งความขัดแย้ง ขาดการประสานงานที่ดี เกิดการซุบซิบนินทาให้ร้ายกัน แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ไม่พูดจาไม่สื่อสารกัน เกี่ยงงานกันและอีกสารพัดปัญหาที่อาจเกิดได้ทั้งนั้น แล้วที่สุดงานก็สะดุดหรือล่าช้า เพราะขาดการร่วมมือร่วมใจกัน ผู้บังคับบัญชาต้องหมั่นตรวจสอบว่าในหน่วยงานมีความขัดแย้งเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ความขัดแย้งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เพราะแต่ละคนแตกต่างกัน ความขัดแย้งในระดับพอเหมาะนำมาซึ่งความคิดเห็นและวิธีการใหม่ ๆ ในการทำงาน แต่ถ้ามีมากจนเกินไปก็กลายเป็นความถดถอยของหน่วยงานและบั่นทอนแรงจูงใจของพนักงานได้เหมือนกัน คนเป็นหัวหน้าจึงต้องคอยตรวจตราให้ดีว่าพนักงานหรือลูกน้องอยู่กันอย่างไร และหาวิธีสร้างความร่วมมือในหมู่พนักงานให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ อาการเซ็งงานเพราะเพื่อนร่วมงานจะได้ไม่เกิดขึ้น

หัวหน้าที่ดีต้องคิดว่าโดยพื้นฐานแล้วลูกน้องอยากจะทำงาน ไม่มีใครรังเกียจงาน หากงานดี นายดีเพื่อนร่วมงานดี เขาย่อมอยากจะทำงานเป็นธรรมดา ที่เขาเบื่อหน่ายขาดแรงจูงใจก็เพราะมีเหตุให้เป็นในเรื่องต่าง ๆ ทั้งสามอย่างที่ว่ามา ไม่ใช่ว่าเกิดจากนิสัยดั้งเดิมหรือกรรมพันธุ์ใด ๆ ทั้งสิ้น รู้อย่างนี้แล้วมาช่วยกันสร้างแรงจูงใจและสร้างไฟทำงานให้ลุกโชนในที่ทำงานกันดีกว่า เพื่อที่ว่าตื่นนอนตอนเช้าทุกคนจะได้มีกำลังวังชาพร้อมจะทำงาน ไม่ต้องอ้อยอิ่งนอนนึกแต่ว่า "ต้องไปทำงานอีกแล้วหรือนี่"


หางาน | บทความอื่นๆ
บริษัท ไทยเว็บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
78/190 ซอยเพชรเกษม 106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105553027232
Tel : 085-8213121 (24 ชม.) 02-810-8300 (จ.-ศ.09.00 - 17.00 น.)
Email : sales@jobthaiweb.com (ฝ่ายขาย) support@jobthaiweb.com (ฝ่ายบริการลูกค้า)
appstore googleplay
เพิ่มเพื่อน Line Facebook Jobthaiweb.com
0.0011909008026123