สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รับ นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ , นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ (บัดนี้ - 8 กันยายน 2553)

หน่วยงาน / องค์กร สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายละเอียด ด้วยสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อ
บรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ และนักจัดการ
งานทั่วไปปฏิบัติการ ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 และหนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร 1004.1/ ว 15 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 เรื่อง
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จึงประกาศรับสมัคร
สอบแข่งขัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง และเงินเดือนที่จะได้รับ
ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศ

2. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ (ของตำแหน่ง)
ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศ

3. คุณสมบัติทั่วไป ลักษณะต้องห้าม และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของผู้มีสิทธิ
สมัครสอบ
3.1 ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติทั่วไป
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข. ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(2) เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิต
ฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ. อันได้แก่ โรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือ
ในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการ
เป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคติดยาเสพติดให้โทษ และโรคพิษสุราเรื้อรัง
(3) เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งให้พักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้
ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(4) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(5) เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง
หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) เป็นบุคคลล้มละลาย
(7) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เพราะกระทำ
ความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจหรือ
หน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตาม
พระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(10) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้
หรือตามกฎหมายอื่น
(11) เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงาน
ในหน่วยงานของรัฐ
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตาม ข. (4)
(6) (7) (8) (9) (10) หรือ (11) ก.พ.อาจพิจารณายกเว้นให้เข้ารับราชการได้ แต่ถ้าเป็นกรณีมีลักษณะ
ต้องห้ามตาม (8) หรือ (9) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสองปีแล้ว และในกรณีมี
ลักษณะต้องห้ามตาม (10) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสามปีแล้ว และต้องมิใช่เป็น
กรณีออกจากงานหรือออกจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่ มติ ของ ก.พ.ในการยกเว้นดังกล่าวต้องได้
คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ของจำนวนกรรมการที่มาประชุมการลงมติให้กระทำโดยลับ
สำหรับพระภิกษุ หรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบ และไม่อาจให้
เข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการได้ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร
ที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่
17 มีนาคม 2538
3.2 คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามที่ระบุไว้ในรายละเอียด
แนบท้ายประกาศนี้
3.3 ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบ
ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้

4. การรับสมัคร
4.1 วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร
ให้ผู้ประสงค์จะสมัครสอบขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ กลุ่มงานสรรหา
บรรจุแต่งตั้งและทะเบียนประวัติ ส่วนบริหารงานบุคคล สำนักบริหารกลาง ชั้น 3 อาคารพระจอมเกล้า
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่
19 สิงหาคม 2553 ถึง 8 กันยายน 2553 ในวัน และเวลาราชการ
4.2 ค่าธรรมเนียมสอบ
ผู้สมัครจะต้องชำระเงินค่าธรรมเนียมสอบในอัตราตำแหน่งละ 200 บาทค่าธรรมเนียม
สอบจะไม่จ่ายคืนให้เมื่อได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบแล้ว เว้นแต่มีการยกเลิกการสอบครั้งนั้นทั้งหมด
เนื่องจากมีการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริต จึงให้จ่ายคืนค่าธรรมเนียมสอบแก่ผู้สมัครสอบเฉพาะผู้ที่ไม่มี
ส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตนั้น
4.3 หลักฐานการสมัครสอบ
ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(1) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่ใส่แว่นตาดำ ขนาด 1.5 X 1 นิ้ว
จำนวน 3 รูป ถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร
(2) สำเนาปริญญาบัตรและสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcrip of
Records) ที่แสดงว่าเป็นผู้มีวุฒิการศึกษาตรงกับตำแหน่งที่สมัคร จำนวนอย่างละ 1 ชุด ทั้งนี้ผู้ที่จะถือว่าเป็น
ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขั้นปริญญาบัตรของสถานศึกษาใดนั้น จะถือตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบ
เกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานศึกษานั้น ๆ เป็นเกณฑ์ โดยจะต้องสำเร็จการศึกษาและ
ได้รับอนุมัติปริญญาบัตรจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัคร คือวันที่ 8 กันยายน 2553
ในกรณีที่ไม่สามารถนำหลักฐานการศึกษาดังกล่าวมายื่นพร้อมใบสมัครได้ ให้นำหนังสือรับรองคุณวุฒิที่
สถานศึกษาออกให้ โดยระบุสาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษา และวันที่ที่ได้รับอนุมัติปริญญาบัตร ซึ่งจะต้องอยู่
ภายในกำหนดวันปิดรับสมัครมายื่นแทนก็ได้
(3) หนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ฉบับ
(4) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
หรือสำเนาทะเบียนบ้าน อย่างใดอย่างหนึ่ง จำนวน 1 ฉบับ
(5) สำเนาหลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบสำคัญการสมรส (เฉพาะผู้สมัครสอบเพศหญิง)
ใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล (กรณีที่ชื่อ - นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน) ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร
(เฉพาะผู้สมัครสอบเพศชาย) อย่างละ 1 ฉบับ
ทั้งนี้ ในสำเนาหลักฐานทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง”
ลงชื่อและวันที่ พร้อมทั้งระบุเลขประจำตัวสอบกำกับไว้มุมบนด้านขวาทุกหน้าของสำเนาเอกสาร และหาก
ผู้สมัครรายใดส่งเอกสารไม่ครบ หรือไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ถือว่าไม่มีสิทธิสมัครในครั้งนี้
(6) ใบรับรองแพทย์แสดงว่าไม่เป็นโรคต้องห้ามตามกฎ ก.พ. ให้นำมายื่นเมื่อ
ประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้แล้ว

5. เงื่อนไขในการรับสมัคร
ผู้สมัครสอบแข่งขันจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มี
คุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัครตรงตามประกาศรับสมัครสอบแข่งขันจริง
และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัครด้วยตนเอง พร้อมทั้งยื่นหลักฐานการสมัครสอบแข่งขันให้
ถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี จะถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้มาตั้งแต่ต้น และจะไม่คืน
ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ

6. การประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่
สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ในวันที่ 20 กันยายน 2553 ณ กลุ่มงานสรรหาบรรจุแต่งตั้งและ
ทะเบียนประวัติ ส่วนบริหารงานบุคคล สำนักบริหารกลาง ชั้น 3 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ และทางเว็บไซด์
http://www.most.go.th หรือ http://www.ops.go.th/personal หัวข้อ “การประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ
วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ” หรือสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์
023333700 ต่อ 3745, 3747 ในวันและเวลาราชการ

7. หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน
หลักสูตรการสอบแข่งขันมี 2 ภาค ดังนี้
7.1 ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ผู้สมัครสอบในตำแหน่งใดต้องสอบวิชาเฉพาะตำแหน่งนั้น ตามที่ได้ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศ
7.2 ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติ
ส่วนตัวประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของผู้เข้าสอบ และจากการ
สัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้
เป็นประโยชน์ในการปฎิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์
ทัศนคติ จรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือน คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคม
และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบและบุคลิกภาพอื่น เป็นต้น รวมถึงสมรรถนะหลัก
และสมรรถนะที่จำเป็นของตำแหน่ง

8. เกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้สอบแข่งขันได้ จะต้องเป็นผู้สอบได้คะแนนในการสอบแต่ละภาค
ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60

9. การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
9.1 สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะประกาศขึ้นบัญชีผู้
สอบแข่งขันได้โดยเรียงลำดับที่จากผู้สอบได้คะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ ในกรณีที่ผู้สอบได้คะแนน
รวมเท่ากันให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้าได้
คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งเท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง
มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่าถ้ายังคงได้คะแนนเท่ากันอีกให้ผู้ที่ได้รับเลขประจำตัวสอบก่อนเป็นผู้อยู่ใน
ลำดับที่สูงกว่า
9.2 การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันขึ้นบัญชี
แต่ถ้ามีการสอบแข่งขันอย่างเดียวกันนี้อีก และได้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่แล้ว บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครั้งนี้
เป็นอันยกเลิก

10. เงื่อนไขการบรรจุและแต่งตั้ง
ผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งใดจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้
สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งนั้น โดยได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิที่กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศ
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่ประสงค์ที่จะรับโอนผู้สอบแข่งขันได้
ที่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐทุกประเภท

11. การนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ใน
ตำแหน่งอื่น
กรณีที่ส่วนราชการอื่นมีตำแหน่งว่างในตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการซึ่ง
ต้องการบุคคลที่มีวุฒิการศึกษาอย่างเดียวกัน และมีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่เหมือนกัน
หรือใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ได้มีการสอบแข่งขัน และขึ้นบัญชีไว้ ส่วนราชการที่มีตำแหน่งว่างสามารถนำ
รายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งที่สอบครั้งนี้ไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งอื่นได้ การนำ
รายชื่อไปขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งอื่นนี้ ให้ถือว่าเป็นการสอบครั้งเดียวกันกับการสอบครั้งนี้
โดยผู้สอบแข่งขันได้ มีสิทธิจะได้รับการบรรจุได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น


หน่วยที่ 1 ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ
1. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง และเงินเดือนที่จะได้รับ
- ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ จำนวน 1 ตำแหน่ง
- อัตราเงินเดือน 9,700 หรือตามที่ ก.พ.กำหนด
2. คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ผู้สมัครจะต้องได้รับปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชา
บริหารธุรกิจ และเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของ ก.พ.
3. ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบ
มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การประสานงาน การบริการที่ดี มีมนุษย์
สัมพันธ์ดี ละเอียดรอบคอบ และทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
4. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ โดยใช้ความรู้ ความสามารถ
ทางวิชาการ ปฏิบัติงานและตัดสินใจภายใต้การกำกับ แนะนำ หรือตรวจสอบ โดยปฏิบัติงานด้านใดด้านหนึ่ง
หรือหลายด้าน ดังนี้
1.ด้านปฏิบัติการ
(1) ร่วมศึกษา วิเคราะห์ ให้คำปรึกษา หรือเสนอแนะทิศทาง กลยุทธ์ ภารกิจ และ
การพัฒนาระบบราชการขององค์กรให้สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
เพื่อให้เกิดการบูรณาการทั่วทั้งองค์กร
(2) ช่วยปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ การประเมินผลการพัฒนา
ระบบราชการ เพื่อให้การบริหารและการพัฒนาระบบราชการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
(3) รวบรวมและตรวจสอบข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ
เพื่อประกอบการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
(4) ดำเนินการจัดทำและพัฒนางานวิชาการด้านการพัฒนาระบบราชการ ในรูปแบบ
เอกสารทางวิชาการ รายงานประจำปี คู่มือ หลักเกณฑ์และวิธีการ เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่
หรือผู้สนใจทั่วไปนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
2. ด้านการวางแผน
(1) รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ เพื่อ
ประกอบการพิจารณาในการวางแผนและกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานกับส่วนราชการภายในและภายนอก หน่วยงานเอกชนทั่วไป เพื่อให้
เกิดความร่วมมือในการพัฒนาระบบราชการ
(2) ดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
การพัฒนาระบบราชการขององค์กร
4. ด้านบริการ
(1) ให้คำปรึกษาแนะนำ และให้ความเห็นในเบื้องต้นแก่ข้าราชการ พนักงานหรือ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ
(2) สำรวจและจัดเก็บข้อมูล ปรับปรุงหรือจัดทำฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศ
เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ เพื่อการประมวล วิเคราะห์ และการนำเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ
แผนงาน/โครงการ หลักเกณฑ์และวิธีการในการพัฒนาระบบราชการ
(3) ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำเอกสาร คู่มือ สื่อ เอกสารเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ
เพื่อการเรียนรู้ และการทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ และปฏิบัติหน้าที่อื่น
ตามที่ได้รับมอบหมาย
5. หลักสูตรและวิธีการสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใชเ้ ฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถโดยวิธีสอบข้อเขียน ดังต่อไปนี้
5.1 ความรู้ความเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการตามแนวทางการบริหารจัดการภาครัฐ
แนวใหม่
5.2 ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ วางแผนและการจัดทำโครงการ

หน่วยที่ 2 ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
1. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง และเงินเดือนที่จะได้รับ
- ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ จำนวน 2 ตำแหน่ง
- อัตราเงินเดือน 7,940 บาท หรือตามที่ ก.พ.กำหนด
2. คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ผู้สมัครจะต้องได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชา
บริหารธุรกิจ และเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของ ก.พ.
3. ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบ
มีความรู้ความสามารถในการประสานงาน การบริการที่ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ละเอียดรอบคอบ และ
มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
4. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงาน โดยใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการปฏิบัติงาน
เกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในสำนักงานหรือการบริหารราชการทั่วไป ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ
โดยปฏิบัติงานด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน ดังนี้
1.ด้านปฏิบัติการ
(1) วิเคราะห์กลั่นกรองเรื่องสรุปเสนอความเห็นผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และจัดทำ
รายงานตามที่ได้รับมอบหมาย
(2) จัดประชุม บันทึกและเรียบเรียงรายงานการประชุม และรายงานอื่นเพื่อให้การบริหาร
การประชุมมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน
(3) ร่างโต้ตอบหนังสือกับหน่วยงานภายในและภายนอก
(4) ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานของตนเอง ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือ
โครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
ประสานการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้สอดคล้องกับภาพรวมผลงานของทีมงาน
ประสานงานกับสมาชิกภายในทีมงาน ให้ความช่วยเหลือภายในทีมงาน เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้
4. ด้านบริการ
ให้ข้อมูล คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับงานในความรับผิดชอบ ในระดับ
เบื้องต้นแก่หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป
5. ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ทดสอบความรู้
ความสามารถโดยวิธีสอบข้อเขียน ดังต่อไปนี้
1. ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 และที่แก้ไข
เพิ่มเติม ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 พระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
2. ความรู้เกี่ยวกับการเขียนหนังสือราชการ การร่างโต้ตอบหนังสือราชการ
3. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการพัสดุ และการประสานการปฏิบัติราชการทั่วไป
รายละเอียด(เพิ่มเติม) / เอกสาร
เว็บไซต์ / ลิงค์อื่นๆ http://www.ops.go.th/personal
ฝากประวัติ ฝากประวัติเพื่อสมัคงานกับเว็บไซต์

บริษัท ไทยเว็บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2/152 ซอยเพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105553027232
Tel : 02-810-8300 (จ.-ศ.08.30 - 17.30 น.) , 085-8213121 (24 ชม.) Fax : 02-810-8301
Email : [email protected] (ฝ่ายขาย) [email protected] (ฝ่ายบริการลูกค้า)
appstore googleplay
เพิ่มเพื่อน Line Facebook Jobthaiweb.com
0.32760095596313