กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รับพนักงาน

หน่วยงาน / องค์กร กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
รายละเอียด ด้วยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการทั่วไป ฉะนั้น อาศัยอานาจตามประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสรรหาและการเลือกสรรพนักงานราชการ และแบบสัญญาจ้างของพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๕๒ และประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง การกาหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของกลุ่มงาน และการจัดกรอบอัตรากาลังพนักงานราชการ ลงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ จึงประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรร โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

๑. ชื่อกลุ่มงาน ตาแหน่ง และรายละเอียดการจ้างงาน
(รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้)

๒. คุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับ การเลือกสรร
คุณสมบัติทั่วไป
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ากว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์
(๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(๔) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน
(๕) ไม่เป็นผู้ดารงตาแหน่งข้าราชการการเมือง กรรมการพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(๖) ไม่เคยเป็นผู้เคยต้องรับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกเพราะกระทาความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดที่ได้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(๗) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
หมายเหตุ ผู้ที่ผ่านการเลือกสรรในวันที่ทาสัญญาจ้างจะต้องไม่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้าง ของราชการส่วนท้องถิ่น
คุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง
(รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศ)

๓. การรับสมัคร
๓.๑ วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร
ผู้สนใจสามารถสมัครสอบได้ทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กันยายน ถึง วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
(๑) เปิดเว็บไซต์ www.rlpd.moj.go.th หรือ http://job.rlpd.moj.go.th
(๒) กรอกข้อความให้ถูกต้องครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กาหนดระบบจะออกแบบฟอร์มการชาระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติแล้วพิมพ์ใบสมัครและแบบฟอร์มการชาระเงินลงในกระดาษ A๔ จานวน ๑ แผ่น หรือหากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้นให้ทาการบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงในสื่อบันทึกข้อมูล เช่น Diskette เป็นต้น เพื่อนาไปพิมพ์ในภายหลัง ในกรณีเกิดความผิดพลาดที่ไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชาระเงินหรือบันทึกข้อมูลได้ ผู้สมัครสามารถเข้าไปพิมพ์แบบฟอร์มการชาระเงินหรือบันทึกข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลใหม่ได้อีกแต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในการกรอกใบสมัครครั้งแรกที่สมบูรณ์แล้ว
(๓) นาแบบฟอร์มการชาระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ไปชาระเงินค่าสมัครสอบที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ (Teller Payment) ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กันยายน ถึงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๓ ภายในเวลาทาการของธนาคาร ผู้สมัครต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสมัคร จานวน ๒๐๐ บาท ทั้งนี้ ไม่รวมค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการทางอินเตอร์เน็ต รายการละ ๓๐ บาท (อัตราเดียวกันทั่วประเทศ) การรับสมัครสอบจะสมบูรณ์เมื่อชาระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว ทั้งนี้ เมื่อสมัครสอบและชาระค่าธรรมเนียมสอบแล้วจะไม่คืนให้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
๓.๒ เงื่อนไขในการรับสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการเลือกสรรจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตรงตามประกาศรับสมัครจริง และจะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ในใบสมัคร พร้อมทั้งยื่นหลักฐานในการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ หรือวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามคุณวุฒิของตาแหน่งที่สมัครสอบ
อันมีผลทาให้ผู้สมัครสอบไม่มีสิทธิสมัครสอบตามประกาศรับสมัครดังกล่าว ให้ถือว่าการรับสมัคร และ การได้เข้ารับการเลือกสรรครั้งนี้เป็นโมฆะสาหรับผู้นั้นและกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบด้วย

๔. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินสมรรถนะ และกาหนดวัน เวลา สถานที่
ในการประเมินสมรรถนะ
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินสมรรถนะและกาหนดวัน เวลา สถานที่ในการประเมินสมรรถนะ ในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และทาง www.rlpd.moj.go.th หรือ http://job.rlpd.moj.go.th

๕. หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกสรร
ผู้สมัครต้องได้รับการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ด้วยวิธีประเมิน ดังนี้
(รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศ)

๖. เกณฑ์การตัดสิน
๖.๑ ผู้ที่จะถือว่ามีสิทธิเข้ารับการประเมินครั้งที่ ๒ โดยวิธีสอบสัมภาษณ์จะต้องเป็นผู้ได้คะแนนในการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๑ โดยวิธีสอบข้อเขียนไม่ต่ากว่าร้อยละ ๖๐
๖.๒ ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้ที่ผ่านการเลือกสรรจะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะ แต่ละครั้งไม่ต่ากว่าร้อยละ ๖๐
๖.๓ การจัดจ้างจะเป็นไปตามลาดับคะแนนที่สอบได้ โดยจะใช้คะแนนรวมของคะแนนประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ เรียงลาดับที่จากผู้ได้คะแนนรวมมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลาดับที่สูงกว่า ในกรณีที่มีคะแนนรวมเท่ากัน ผู้ได้คะแนนประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๒ มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลาดับ ที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๒ เท่ากันผู้ได้คะแนนการสอบข้อเขียนมากกว่าเป็นผู้อยู่ ในลาดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนสอบข้อเขียนเท่ากันผู้ที่มีเลขประจาตัวสอบในลาดับก่อนเป็นผู้อยู่ในลาดับที่ สูงกว่า

๗. การประกาศรายชื่อและการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการเลือกสรร
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการเลือกสรรตามลาดับคะแนนสอบ ณ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และทาง www.rlpd.moj.go.th หรือ http://job.rlpd.moj.go.th โดยบัญชีรายชื่อดังกล่าว ให้เป็นอันยกเลิกหรือสิ้นผลไปเมื่อเลือกสรรครบกาหนด ๒ ปี นับแต่วันที่ขึ้นบัญชีหรือ นับแต่วันประกาศรับสมัครในตาแหน่งที่มีลักษณะงานเดียวกันนี้ใหม่ แล้วแต่กรณี

๘. การจัดทาสัญญาจ้างผู้ผ่านการเลือกสรร
ผู้ผ่านการเลือกสรรจะต้องทาสัญญาจ้างตามที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกาหนด


หน่วยที่ ๑ ตาแหน่งพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ลักษณะงานที่จะให้ปฏิบัติ ปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดังนี้
(๑) การช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจาเลยในคดีอาญา
ทาหน้าที่รับคาขอรับค่าตอบแทนจากผู้เสียหายและคาขอรับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายจากจาเลยในคดีอาญา ตลอดถึงการติดตามรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการร้องขอค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่าย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการต่าง ๆ
(๒) การรับเรื่องราวร้องทุกข์
ทาหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ ให้คาปรึกษาแนะนาแก่ประชาชน และประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
(๓) การส่งเสริมการระงับข้อพิพาท
ทาหน้าที่ติดตามผลการดาเนินงานในการส่งเสริมการระงับข้อพิพาทของอาสาสมัคร เครือข่าย และผู้ทาหน้าที่ในการระงับข้อพิพาท ให้คาปรึกษาแนะนาการส่งเสริมการระงับข้อพิพาท แก่ผู้ทาหน้าที่ในการระงับข้อพิพาท และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ
(๔) การส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ
ทาหน้าที่เผยแพร่ความรู้สิทธิและเสรีภาพในกระบวนการยุติธรรม สร้าง ความร่วมมือและประสานการดาเนินงานร่วมกับอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและหน่วยงานต่างๆ เพื่อการรณรงค์และเผยแพร่ความรู้สิทธิและเสรีภาพแก่ประชาชน ตลอดจนการจัดทาข้อมูลสิทธิเสรีภาพ ในระดับจังหวัด
(๕) การคุ้มครองพยาน
ทาหน้าที่ให้คาแนะนาแก่ประชาชน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการ ในการขอรับการคุ้มครองพยาน การขอรับค่าตอบแทนแก่พยานที่มาให้ข้อเท็จจริงหรือเบิกความในคดีอาญา การขอรับค่าตอบแทนความเสียหายแก่พยาน และประสานกับกรมในกรณีมีการขอรับการคุ้มครองหรือ ขอรับค่าตอบแทน
(๖) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
อัตราว่าง ๑ อัตรา
ค่าตอบแทน ๙,๕๓๐ บาท
เงินเพิ่มค่าครองชีพ ๑,๕๐๐ บาท
สิทธิประโยชน์ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่วันจ้าง ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕

คุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง
(๑) ผู้สมัครต้องได้รับวุฒิการศึกษาปริญญาตรีทุกสาขา
(๒) มีความรู้ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ Microsoft office ได้เป็นอย่างดี
หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกสรร
ผู้สมัครต้องได้รับการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ด้วยวิธีประเมิน ดังนี้
การประเมินครั้งที่ ๑
๑. ความรู้ความสามารถทั่วไป
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย งานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ความรู้เกี่ยวกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกระทรวงยุติธรรม
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเหตุการณ์ปัจจุบัน
๒. ความรู้ความสามารถเฉพาะตาแหน่ง
ความรู้ความสามารถต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตาแหน่ง พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
สอบข้อเขียนการประเมินครั้งที่ ๒
สัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตาแหน่งในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงที วาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ คุณธรรมจริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น โดยอาจพิจารณาจากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของ ผู้เข้าสอบร่วมด้วย
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะดาเนินการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๑ โดยวิธีสอบข้อเขียนก่อน และผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะในครั้งที่ ๑ ดังกล่าว จะต้องเข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๒ โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ต่อไป

หน่วยที่ ๒ ตาแหน่งนิติกร
ลักษณะงานที่จะให้ปฏิบัติ ดังนี้
๑. ทาหน้าที่รับคาขอรับค่าตอบแทนจากผู้เสียหายและคาขอรับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายจากจาเลยในคดีอาญา
๒. ติดตามรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการร้องขอค่าตอบแทน ค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการต่าง ๆ
๓.ให้บริการตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหายและค่าใช้จ่ายแก่จาเลย ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔
๔. ประสานงานกับหน่วยงานราชการอื่นหรือบุคคลใดๆ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง หรือความเห็น เกี่ยวกับการขอรับค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่าย เก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่าย
๕.เสนอความเห็นแก่ผู้บังคับบัญชาในการตอบข้อหารือหรือวินิจฉัยปัญหากฎหมายเกี่ยวกับระเบียบของทางราชการที่มีผลกระทบต่อการดาเนินงานของหน่วยงาน เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุน การพิจารณาของผู้บังคับบัญชา
๖. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
อัตราว่าง ๒ อัตรา
ค่าตอบแทน ๙,๕๓๐ บาท
เงินเพิ่มค่าครองชีพ ๑,๕๐๐ บาท
สิทธิประโยชน์ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่วันจ้าง ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕
คุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง
(๑) ผู้สมัครต้องได้รับวุฒิการศึกษาปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขานิติศาสตร์
(๒) มีความรู้ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ Microsoft office ได้เป็นอย่างดี
หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกสรร
ผู้สมัครต้องได้รับการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ด้วยวิธีประเมิน ดังนี้
หลักเกณฑ์การเลือกสรร
๑. ความรู้ความสามารถทั่วไป
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย งานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ความรู้เกี่ยวกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกระทรวงยุติธรรม
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเหตุการณ์ปัจจุบัน
๒. ความรู้ความสามารถเฉพาะตาแหน่ง
ความรู้ความสารถเกี่ยวกับกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับตาแหน่ง นิติกร
การประเมินครั้งที่ ๒
สัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตาแหน่งในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงที วาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ คุณธรรมจริยธรรม การปรับตัวเข้า กับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น โดยอาจพิจารณาจากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของ ผู้เข้าสอบร่วมด้วย
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะดาเนินการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๑ โดยวิธีสอบข้อเขียนก่อน และผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะในครั้งที่ ๑ ดังกล่าว จะต้องเข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๒ โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ต่อไป

หน่วยที่ ๓ ตาแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชี
ลักษณะงานที่จะให้ปฏิบัติ ดังนี้
(๑) จัดทาบัญชี เอกสารรายงานความเคลื่อนไหวทางการเงินทั้งเงินในและเงินนอกงบประมาณ เพื่อแสดงสถานะทางการเงินและใช้เป็นฐานข้อมูลที่ถูกต้องตามระเบียบ วิธีการบัญชี ของส่วนราชการ
(๒) รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูล และช่วยปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์กฎหมายและระเบียบการบริหารงานคลัง เพื่อจัดทาคู่มือการปฏิบัติงาน
(๓) ช่วยดาเนินการปรับปรุงระบบเพื่อพัฒนาวิธีการปฏิบัติงานด้านการเงิน บัญชี งบประมาณ และการคลัง ให้ทันสมัย
(๔) ประเมินผลและติดตามผลรวมทั้งตรวจสอบการจ่ายเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ การจัดทาบัญชี ฎีกา งบเดือน ให้เป็นไปตามระเบียบและวิธีการที่กาหนด
(๕) ดูแลการรับจ่ายเงินและจ่ายเงิน สถานะทางการเงิน ตรวจสอบทางการเงิน ตรวจสอบเอกสารสาคัญการรับ-จ่ายเงิน เพื่อให้การรับ-จ่ายเงินขององค์กรมีประสิทธิภาพ การปฏิบัติการถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ
(๖) ให้คาปรึกษา แนะนา เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบบริหารงานคลัง
(๗) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
อัตราว่าง ๑ อัตรา
ค่าตอบแทน ๙,๕๓๐ บาท
เงินเพิ่มค่าครองชีพ ๑,๕๐๐ บาท
สิทธิประโยชน์ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่วันจ้าง ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕
คุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง
(๑) ผู้สมัครต้องได้รับวุฒิการศึกษาปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นเทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาการบัญชี สาขาบริหารธุรกิจ หรือสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
(๒) มีความรู้ ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ Microsoft office ได้เป็นอย่างดี
หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกสรร
ผู้สมัครต้องได้รับการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ด้วยวิธีประเมิน ดังนี้
หลักเกณฑ์การเลือกสรร
๑. ความรู้ความสามารถทั่วไป
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย งานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ความรู้เกี่ยวกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกระทรวงยุติธรรม
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเหตุการณ์ปัจจุบัน
๒. ความรู้ความสามารถเฉพาะตาแหน่ง
ความรู้ความสามารถต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตาแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชี
การประเมินครั้งที่ ๒
สัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตาแหน่งในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงที วาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ คุณธรรมจริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น โดยอาจพิจารณาจากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของ ผู้เข้าสอบร่วมด้วย
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะดาเนินการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๑ โดยวิธีสอบข้อเขียนก่อน และผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะในครั้งที่ ๑ ดังกล่าว จะต้องเข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๒ โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ต่อไป

หน่วยที่ ๔ ตาแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์
ลักษณะงานที่จะให้ปฏิบัติ ดังนี้
๑. ปฏิบัติงานด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ
๒. ทาหน้าที่ในติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ติดตั้งอุปกรณ์เครือข่าย
๓. งานวิเคราะห์ปัญหา งานแก้ไขปัญหา ที่เกิดจากการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์และระบบงาน
๔. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
ค่าตอบแทน ๙,๕๓๐ บาท
เงินเพิ่มค่าครองชีพ ๑,๕๐๐ บาท
สิทธิประโยชน์ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่วันจ้าง ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕
คุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่ง
(๑) ได้รับวุฒิปริญญาตรีทางวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมคอมพิวเตอร์), วิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาการคอมพิวเตอร์), วิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคโนโลยีสารสนเทศ), เทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ
(๒) มีความรู้ ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกสรร
ผู้สมัครต้องได้รับการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ด้วยวิธีประเมิน ดังนี้
การประเมินครั้งที่ ๑
๑. ความรู้ความสามารถทั่วไป
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
- ความรู้เกี่ยวกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย งานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- ความรู้เกี่ยวกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกระทรวงยุติธรรม
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเหตุการณ์ปัจจุบัน
๒. ความรู้ความสามารถเฉพาะตาแหน่ง
ความรู้ความสามารถต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตาแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์
การประเมินครั้งที่ ๒
๑. ทดสอบการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ
๒. สัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตาแหน่งในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงที วาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ คุณธรรมจริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น โดยอาจพิจารณาจากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของ ผู้เข้าสอบร่วมด้วย
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะดาเนินการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๑ โดยวิธีสอบข้อเขียนก่อน และผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะในครั้งที่ ๑ ดังกล่าว จะต้องเข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ ๒ โดยวิธีสอบปฏิบัติและสอบสัมภาษณ์ ต่อไป
รายละเอียด(เพิ่มเติม) / เอกสาร
เว็บไซต์ / ลิงค์อื่นๆ http://job.rlpd.moj.go.th
ฝากประวัติ ฝากประวัติเพื่อสมัคงานกับเว็บไซต์

บริษัท ไทยเว็บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2/152 ซอยเพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105553027232
Tel : 02-810-8300 (จ.-ศ.08.30 - 17.30 น.) , 085-8213121 (24 ชม.) Fax : 02-810-8301
Email : [email protected] (ฝ่ายขาย) [email protected] (ฝ่ายบริการลูกค้า)
appstore googleplay
เพิ่มเพื่อน Line Facebook Jobthaiweb.com
0.18719983100891